Skip to main content

ในโลกที่ทุกอย่างหมุนไปอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์ดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือทุกเวลาไปจนถึงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะคู่ใจสำหรับทำงาน หลายคนคงไม่ทันสังเกตว่าของเหล่านี้เมื่อหมดอายุการใช้งานหรือเสียแล้วจะกลายเป็น “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” หรือที่เรียกกันว่า E-Waste ซึ่งมักจะถูกซ่อนไว้ในลิ้นชักที่บ้าน ใต้เตียง หรือในกล่องเก็บของที่ไม่มีใครสนใจ ไม่ว่าจะเป็นหูฟังที่พังแล้ว สายชาร์จที่ขาด โทรศัพท์เครื่องเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ของเหล่านี้ดูเหมือนเป็นแค่ของชิ้นเล็กๆ แต่ความจริงแล้วมันซ่อนปัญหาใหญ่กว่าที่คิด

หากเราไม่จัดการมันอย่างถูกวิธี ปัญหานี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับเราคนเดียว แต่จะส่งผลถึงสิ่งแวดล้อมและทุกชีวิตบนโลกนี้ในระยะยาวเลยทีเดียว บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ในขยะอิเล็กทรอนิกส์ และทำความเข้าใจว่าทำไมของชิ้นเล็กๆ เหล่านี้ถึงเป็นระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ และเราในฐานะเจ้าของอุปกรณ์จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง

 

ปัญหาและผลกระทบของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เรามักมองข้าม

หากมองขยะอิเล็กทรอนิกส์เผินๆ หลายคนอาจคิดว่าเป็นแค่เศษพลาสติกและโลหะทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว อุปกรณ์เหล่านี้มีส่วนประกอบของสารเคมีและโลหะหนักที่เป็นอันตรายจำนวนมาก เช่น ตะกั่ว (Lead) ปรอท (Mercury) แคดเมียม (Cadmium) และ สารหนู (Arsenic) ซึ่งสารเหล่านี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต เมื่อถูกนำไปทิ้งรวมกับขยะทั่วไปในหลุมฝังกลบ สารพิษเหล่านี้จะค่อยๆ รั่วไหลเข้าสู่พื้นดินและแหล่งน้ำใต้ดิน ทำให้เกิดการปนเปื้อนในระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง

ลองจินตนาการดูว่าสารพิษเหล่านี้จะเดินทางต่อไปได้อีกยาวไกลขนาดไหน มันจะไหลลงสู่แม่น้ำลำคลอง และทะเล ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและพืชที่อยู่ในน้ำ เมื่อเราบริโภคอาหารทะเลหรือน้ำที่ปนเปื้อนสารเหล่านี้เข้าไป สารพิษก็จะสะสมอยู่ในร่างกายของเรา ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคทางระบบประสาท ปัญหาสุขภาพของไตและตับ หรือแม้กระทั่งความผิดปกติของพัฒนาการในเด็กเล็ก นอกจากนี้การเผาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่ถูกวิธีเพื่อแยกเอาโลหะมีค่าก็ยิ่งทำให้สารพิษกระจายออกไปในอากาศซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์และสัตว์อีกด้วย

สถานการณ์ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในไทยที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าเป็นห่วง จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่าในแต่ละปีประเทศไทยมีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณสูงถึงกว่า 400,000 ตันต่อปี และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี สาเหตุหลักมาจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล อุปกรณ์ต่างๆ มีราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น มีรุ่นใหม่ออกมาให้เลือกซื้ออยู่เสมอ ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่บ่อยขึ้นตามไปด้วย

ปัญหาที่ตามมาคือขยะเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกส่งไปยังศูนย์รีไซเคิลที่ได้มาตรฐาน แต่กลับถูกทิ้งปะปนไปกับขยะทั่วไป หรือถูกส่งต่อไปยังสถานที่จัดการขยะที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ได้มาตรฐาน ทำให้กระบวนการคัดแยกเป็นไปอย่างอันตรายและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากไม่มีการให้ความรู้และสร้างระบบการจัดการที่เป็นรูปธรรม ปัญหานี้จะสะสมและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยทั้งประเทศในอนาคตอันใกล้นี้ได้

 

แนวทางแก้ปัญหาที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้

แม้ว่าปัญหาจะดูยิ่งใหญ่ แต่ทุกคนก็ยังสามารถเริ่มต้นแก้ไขได้จากจุดเล็กๆ อย่างการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่บ้านอย่างถูกวิธี นี่คือแนวทางง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้เลย

∘ ใช้ให้นานขึ้น (Reduce)

พิจารณาว่าอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่ยังสามารถใช้งานได้อยู่หรือไม่ หากเกิดการชำรุดหรือพัง ลองพยายามซ่อมแซมดูก่อน และเริ่มนิสัยดูแลรักษาอุปกรณ์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่

∘ บริจาคหรือส่งต่อ (Reuse)

หากอุปกรณ์ของคุณยังใช้งานได้ดีอยู่ ลองพิจารณานำไปบริจาคให้กับโรงเรียน องค์กรการกุศล หรือผู้ที่ต้องการใช้งานต่อ นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้อื่นอีกด้วย

∘ คัดแยกและนำไปรีไซเคิล (Recycle)

สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถซ่อมแซมหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกแล้ว เช่น หูฟังที่ขาดหรือแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ให้คัดแยกออกจากขยะทั่วไปอย่างชัดเจน จากนั้นนำไปส่งต่อที่จุดรับคืนขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ที่ทำการเขต ห้างสรรพสินค้าบางแห่ง หรือบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางรายที่เปิดรับคืน เพื่อให้ขยะเหล่านี้ถูกนำไปจัดการอย่างถูกวิธีและนำชิ้นส่วนที่มีค่ากลับมาใช้ใหม่

∘ การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในอนาคต เมื่อถึงเวลาที่ต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ ลองพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลหรือสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตที่ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สรุป

ของชิ้นเล็กที่สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจเป็นแค่ของชิ้นเล็กๆ ที่ถูกมองข้าม แต่หากเราไม่ใส่ใจจัดการให้ถูกวิธี มันจะกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ในทางกลับกัน หากเราทุกคนร่วมมือกันเพียงแค่เริ่มต้นจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในบ้านอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยลดปริมาณสารพิษที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมได้อย่างมหาศาล และมีส่วนช่วยในการหมุนเวียนทรัพยากรธรรมชาติให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น การกระทำที่ดูเหมือนเล็กน้อยของเราในวันนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกของเราในวันหน้า

และในฐานะผู้ผลิตเคมีภัณฑ์คุณภาพที่มุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืน บริษัท เอเชี่ยน เคมิคัล จำกัด (ACC) ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการจัดการขยะอย่างยั่งยืนผ่านโครงการ ACC GO GREEN ที่มุ่งมั่นในการให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับสังคม เพื่อร่วมกันสร้างโลกสีเขียวที่น่าอยู่ให้กับคนรุ่นต่อไป

Leave a Reply